เร่งสปีดคอมพิวเตอร์ให้แรงทะลุจอ ไม่ช้า ไม่อืด แค่ปิดสิ่งนี้

เคยเป็นไหม? เปิดคอมพิวเตอร์แล้วทำงานไม่ทันใจ กว่าจะเปิดโปรแกรมเสร็จ ต้องรอโหลดนานจนหงุดหงิด วันนี้ DiTC มีเคล็ดลับง่ายๆ ที่จะช่วยให้คอมพิวเตอร์เร็วแรงทะลุจอ โดยไม่ต้องพึ่งเทคนิคขั้นสูงหรือซื้ออุปกรณ์ใหม่ให้เปลืองเงิน แค่ “ปิดสิ่งนี้” คอมพิวเตอร์ก็จะทำงานลื่นไหลได้ในพริบตา

อะไรคือสาเหตุที่ทำให้คอมพิวเตอร์ช้า?

• โปรแกรมเปิดพร้อมกันมากเกินไป การเปิดโปรแกรมหลายๆ ตัวพร้อมกัน ทำให้ CPU และ RAM ต้องทำงานหนักขึ้น ส่งผลให้คอมพิวเตอร์ช้าลง
• ไฟล์ขยะและโปรแกรมที่ไม่จำเป็น ไฟล์ขยะต่างๆ และโปรแกรมที่ไม่ได้ใช้งาน จะกินพื้นที่ฮาร์ดดิสก์และทำให้คอมพิวเตอร์ทำงานช้าลง
• ไวรัสและมัลแวร์ แอบเข้ามาในคอมพิวเตอร์ และทำงานในเบื้องหลัง ทำให้คอมพิวเตอร์ช้าลงและอาจทำให้ข้อมูลเสียหายได้
• ฟีเจอร์ที่ไม่จำเป็น บางโปรแกรมจะมีฟีเจอร์ที่เราไม่ได้ใช้งาน แต่ก็ทำงานอยู่เบื้องหลัง ทำให้กินทรัพยากรคอมพิวเตอร์

วิธีเร่งสปีดคอมพิวเตอร์ให้แรงทะลุจอแค่ปิดสิ่งนี้

1. ปิดโปรแกรมที่รันเบื้องหลัง

โปรแกรมบางตัวที่เราไม่เห็นว่าเปิดอยู่บนหน้าจอ แต่อาจจะกำลังรันและแอบกินทรัพยากรของคอมพิวเตอร์อย่างต่อเนื่อง จึงเป็นตัวการที่ทำให้คอมพิวเตอร์ช้ากว่าที่ควรจะเป็น และคงหนีไม่พ้นโปรแกรมที่รันอัตโนมัติเมื่อเปิดคอมฯ หลายคนอาจไม่ทันสังเกตว่ามีแอปเหล่านี้เปิดอยู่ การปิดจึงเป็นวิธีแรกที่ทำให้คอมฯ ทำงานได้เร็วขึ้น!

วิธีปิดโปรแกรมที่รันเบื้องหลังง่ายๆ ช่วยลดภาระการทำงานของ CPU และ RAM ดังนี้

1. Task Manager โดยพิมพ์ค้นหาในช่องค้นหา (Search) หรือกดคีย์ลัด Ctrl + Shift + Esc
2. ดูว่าโปรแกรมอะไรบ้างที่รันอยู่โดยไม่จำเป็น
3. กดเลือกโปรแกรมนั้นแล้วกด End Task

วิธีปิดโปรแกรม start up เพื่อไม่ต้องกลับมาปิดอีกในครั้งต่อไปเมื่อเปิดเครื่อง

1. Task Manager โดยพิมพ์ค้นหาในช่องค้นหา (Search) หรือกดคีย์ลัด Ctrl + Shift + Esc
2. ดูว่าโปรแกรมอะไรบ้างที่รันอยู่โดยไม่จำเป็น
3. คลิกขวาที่โปรแกรมนั้นแล้วเลือก Disable

2. ปิดแอนิเมชันที่เกินจำเป็น

Windows มักจะมีลูกเล่นแอนิเมชันสวยๆ ที่ทำให้การใช้งานดูสมูท แต่สิ่งเหล่านี้ก็มีส่วนทำให้การทำงานของคอมช้าลงเหมือนกัน วิธีการปิดคือให้ไปที่ System Properties > Advanced > Performance Settings แล้วเลือก “Adjust for best performance” คอมพิวเตอร์ก็จะดูเรียบๆ ขึ้น แต่บอกเลยว่าช่วยเร่งสปีดการทำงานได้อย่างเห็นผลชัดเจน

3. อัปเดตไดรเวอร์ และ Windows ให้เป็นเวอร์ชันล่าสุด

บางครั้งคอมพิวเตอร์อาจช้าเพราะไดรเวอร์หรือระบบปฏิบัติการที่เก่าเกินไป การอัปเดตให้เป็นเวอร์ชันล่าสุดจะช่วยแก้บั๊กและปรับปรุงการทำงานให้ดีขึ้น โดยเข้าไปที่ Settings > Update & Security แล้วตรวจสอบว่าเครื่องของคุณมีอะไรต้องอัปเดตบ้าง ถ้ามีให้รีบจัดการอัปเดตเลย!

เคล็ดลับเพิ่มเติม

• หากมีงบประมาณ สามารถเพิ่ม RAM คอมพิวเตอร์ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน
• เปลี่ยนฮาร์ดดิสก์เป็น SSD ช่วยให้คอมพิวเตอร์บูตเร็วขึ้น และโหลดโปรแกรมต่างๆ ได้เร็วขึ้น
• ระวังโปรแกรมที่ติดตั้งมาพร้อมกับคอมพิวเตอร์ เพราะบางโปรแกรมอาจกินทรัพยากรคอมพิวเตอร์โดยไม่จำเป็น ให้พิจารณาว่าโปรแกรมเหล่านั้นจำเป็นหรือไม่