การตรวจสอบความถูกต้องของใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์ เป็นกระบวนการที่สำคัญทางการเงิน และการปฏิบัติตามกฎหมายสำหรับองค์กร โดยวิธีการตรวจสอบความถูกต้องของใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์ที่น่าสนใจ และบริษัท ดีไอทีซี จำกัด นำมาฝากกัน มีดังนี้
วิธีตรวจสอบความถูกต้องของใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์ที่ไม่ควรมองข้าม
1. ตรวจสอบความถูกต้องแม่นยำ
- ตรวจสอบความครบถ้วน ถูกต้องของข้อมูลในใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์ เช่น เลขที่ใบกำกับ เลขที่ใบเสร็จ วันที่ออก และรายละเอียดของสินค้าหรือบริการที่ระบุในใบกำกับภาษี
- ตรวจสอบความถูกต้องของรูปแบบไฟล์ของใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์ที่จำเป็น เช่น PDF, XML หรืออื่นๆ และตรวจสอบให้แน่ใจว่าไฟล์ที่ได้รับนั้นสมบูรณ์และไม่ถูกแก้ไข
2. ตรวจสอบความถูกต้องของธุรกิจ
- ตรวจสอบข้อมูลในใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์กับข้อมูลอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจ เช่น สินค้าหรือบริการที่ส่งมอบ ธุรกรรมการชำระเงิน หรือข้อมูลอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง
- ตรวจสอบความถูกต้องของหมายเลขใบแจ้งหนี้กับระบบบัญชีหรือการลงทะเบียนใบแจ้งหนี้ เพื่อให้แน่ใจว่าไม่มีการทำซ้ำหรือดัดแปลง
3. ตรวจสอบความน่าเชื่อถือของเอกสารอิเล็กทรอนิกส์ Web Validation
- Web Validation เป็นระบบการให้บริการตรวจสอบข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ เพื่ออำนวยความสะดวกแก่หน่วยงานและผู้ประกอบการ จัดทำขึ้นโดยสำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (ETDA) โดยข้อมูลที่มีบริการตรวจสอบ คือ
- e-Timestamping ตรวจสอบความน่าเชื่อถือของการประทับรับรองเวลาอิเล็กทรอนิกส์ของ e-Tax Invoice by Email
- Digital Signature ตรวจสอบรายละเอียดและการเปลี่ยนแปลงต่างๆ ที่เกิดกับลายมือชื่ออิเล็กทรอนิกส์ โดยรองรับการตรวจ PDF (PAdES) และ XML (XAdES) ของใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์ และใบรับอิเล็กทรอนิกส์
- e-Tax Invoice & e-Receipt ตรวจสอบความถูกต้องครบถ้วนตามโครงสร้างของเอกสารใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์ และใบรับอิเล็กทรอนิกส์ (ขมธอ.3-2560)
- โดย Web Validation สามารถรองรับเอกสารอิเล็กทรอนิกส์ที่มีการสร้างและบันทึกในรูปแบบของไฟล์ PDF, PDF/A-3 (.pdf) หรือ XML (.XML) สามารถตรวจสอบเอกสารอิเล็กทรอนิกส์ผ่านเว็บไซต์ https://validation.teda.th
4. ตรวจสอบลายเซ็นดิจิทัล
- ใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์มักมีลายเซ็นดิจิทัลเพื่อให้แน่ใจว่าถูกต้องและสมบูรณ์ ดังนั้นจึงควรตรวจสอบความถูกต้องของลายเซ็นดิจิทัลโดยใช้ใบรับรองอิเล็กทรอนิกส์หรือเครื่องมือตรวจสอบความถูกต้อง
- ตรวจสอบว่าลายเซ็นดิจิทัลตรงกับข้อมูลของผู้ให้บริการออกใบรับรองอิเล็กทรอนิกส์ (Certification Authority: CA) ที่มีความน่าเชื่อถือ ซึ่งอยู่ภายใต้การรับรองของผู้ให้บริการออกใบรับรองอิเล็กทรอนิกส์แห่งชาติ (Thailand National Root Certification Authority หรือ Thailand NRCA) และการกำกับดูแลของสำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (ETDA) กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ที่ได้รับการรับรองมาตรฐานสากล Trust Server Principles and Criteria Authority (Web Trust for CAs)
5. เปรียบเทียบกับเอกสารประกอบ
- จับคู่ข้อมูลในใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์กับเอกสารประกอบ เช่น ใบสั่งซื้อ ใบส่งของ สัญญา หรือใบเสร็จรับเงิน เพื่อให้สอดคล้องและถูกต้อง
- อ้างอิงรายละเอียดของใบแจ้งหนี้ เช่น ปริมาณ ราคา และคำอธิบาย กับธุรกรรมที่สอดคล้องกันเพื่อระบุความคลาดเคลื่อนหรือความผิดปกติใดๆ
6. ดำเนินการตรวจสอบเป็นระยะ
- ดำเนินการตรวจสอบภายในเป็นประจำ เพื่อตรวจสอบความถูกต้องและการปฏิบัติตามใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์ จะช่วยให้พบข้อผิดพลาด ความไม่สอดคล้องกัน หรือกิจกรรมการโกงต่างๆ ที่อาจเกิดขึ้นได้
- ให้ผู้เชี่ยวชาญด้านการเงินและภาษีทำการตรวจสอบและประเมินบันทึกใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์อย่างละเอียดถี่ถ้วนเพื่อให้มั่นใจว่าเป็นไปตามกฎหมายและข้อบังคับด้านภาษี
โดยสรุปแล้วการตรวจสอบความถูกต้องของใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์ได้อย่างถูกต้องทั้งขั้นตอนและข้อกำหนดทางกฎหมาย คุณอาจจำเป็นต้องปรึกษากับผู้เชี่ยวชาญด้านภาษีหรือขอคำแนะนำจากหน่วยงานด้านภาษีที่เกี่ยวข้องเพื่อให้แน่ใจว่าการจัดการใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์ถูกต้องและเป็นไปตามข้อกำหนดอย่างครบถ้วน