ระวัง 5 พฤติกรรมการใช้คอมพิวเตอร์สุดเสี่ยง ข้อมูลถูกโจรกรรมหรือรั่วไหล


คอมพิวเตอร์กลายเป็นอุปกรณ์สำคัญที่แทบจะกลายเป็นปัจจัยที่ 5
ของชีวิต หลายคนใช้คอมพิวเตอร์ทำงาน เรียน เล่นเกม ติดต่อสื่อสาร ช้อปปิ้ง และทำธุรกรรมทางการเงิน แต่รู้หรือไม่ว่า พฤติกรรมการใช้คอมพิวเตอร์บางอย่างที่หลายคนทำจนเคยชิน อาจทำให้ข้อมูลส่วนตัว รูปภาพ รหัสผ่าน และข้อมูลสำคัญอื่นๆ ถูกขโมยหรือรั่วไหลได้ง่ายๆ มาดูกันว่า พฤติกรรมการใช้คอมพิวเตอร์แบบไหน ที่ทำให้ข้อมูลของคุณเสี่ยงต่อการถูกขโมยหรือรั่วไหล

 

5 พฤติกรรมการใช้คอมพิวเตอร์สุดเสี่ยง ข้อมูลถูกโจรกรรมหรือรั่วไหล

1. ดาวน์โหลดโปรแกรมเถื่อน

โปรแกรมเถื่อนต่างๆ มักมีช่องโหว่ด้านความปลอดภัย แฮกเกอร์สามารถใช้ช่องโหว่เหล่านี้เพื่อแฝงมัลแวร์หรือไวรัสที่สามารถขโมยข้อมูลส่วนตัวของคุณ หรือแฮ็กเข้าควบคุมคอมพิวเตอร์ของคุณได้ ตัวอย่างมัลแวร์ที่พบได้ทั่วไป เช่น ransomware ที่เข้ารหัสไฟล์ของคุณและเรียกร้องค่าไถ่ หรือ keylogger ที่บันทึกทุกสิ่งที่คุณพิมพ์บนแป้นพิมพ์ รวมถึงรหัสผ่านของคุณ

วิธีป้องกัน

  • หลีกเลี่ยงการดาวน์โหลดโปรแกรมเถื่อน
  • ตรวจสอบแหล่งที่มาของโปรแกรมก่อนดาวน์โหลด
  • สแกนโปรแกรมด้วยโปรแกรมป้องกันไวรัส
  • อัปเดตโปรแกรมป้องกันไวรัสและระบบปฏิบัติการอยู่เสมอ

2. คลิกลิงก์หรือเปิดไฟล์แนบจากแหล่งที่ไม่น่าเชื่อถือ

ลิงก์หรือไฟล์แนบที่น่าสงสัย อาจเป็นช่องทางที่แฮกเกอร์ใช้เพื่อแพร่กระจายมัลแวร์หรือไวรัส  ตัวอย่าง เช่น อีเมลฟิชชิ่งที่ปลอมแปลงเป็นอีเมลจากหน่วยงานที่น่าเชื่อถือ เช่น ธนาคาร หรือบริษัทขนส่ง เพื่อหลอกให้คุณคลิกลิงก์หรือเปิดไฟล์แนบที่ติดมัลแวร์

วิธีป้องกัน

  • ไม่คลิกลิงก์หรือดาวน์โหลดไฟล์จากแหล่งที่ไม่น่าเชื่อถือ
  • ตรวจสอบ URL ของเว็บไซต์ให้แน่ใจว่าปลอดภัยก่อนเข้าใช้งาน
  • ติดตั้งโปรแกรมป้องกันไวรัสและมัลแวร์บนคอมพิวเตอร์ของคุณ

3. ใช้รหัสผ่านง่ายๆ เดิมๆ

การใช้รหัสผ่านที่ง่ายเช่น “password123” หรือว่า “admin” หรือรหัสผ่านที่เดาได้ง่าย เช่น วันเกิด เบอร์โทรศัพท์ หรือชื่อเล่น ทำให้คุณเป็นเป้าหมายที่ง่ายต่อผู้ไม่ประสงค์ดี แฮกเกอร์สามารถเดารหัสผ่านเหล่านี้ได้ง่าย หรือใช้โปรแกรมคาดเดารหัสผ่านเพื่อแฮ็กบัญชีของคุณ ทั้งนี้การใช้รหัสผ่านง่ายๆ เดิมๆ กับบัญชีต่างๆ บนคอมพิวเตอร์ เช่น อีเมล โซเชียลมีเดีย ธนาคาร เป็นการเปิดช่องโหว่ให้แฮกเกอร์สามารถเดาหรือเจาะรหัสผ่านของคุณได้ง่าย

วิธีป้องกัน

  • ตั้งรหัสผ่านที่คาดเดายาก ยาวอย่างน้อย 12 ตัวอักษร ประกอบไปด้วยตัวอักษรพิมพ์ใหญ่ ตัวอักษรพิมพ์เล็ก ตัวเลข และสัญลักษณ์พิเศษ
  • ไม่ใช้รหัสผ่านเดียวกันกับหลายๆ บัญชี
  • เปลี่ยนรหัสผ่านเป็นประจำ

4. ใช้ Wi-Fi สาธารณะโดยไม่ป้องกัน

การใช้ Wi-Fi สาธารณะโดยไม่ป้องกัน เช่น Wi-Fi ฟรีในร้านกาแฟ ห้างสรรพสินค้า สนามบิน แฮกเกอร์สามารถดักจับข้อมูลของคุณในขณะที่คุณออนไลน์ ทำให้ข้อมูลถูกแฮ็กได้ง่าย ควรเลือกใช้ Wi-Fi ที่มีการรักษาความปลอดภัยและไม่ควรใช้งานคอมพิวเตอร์เกี่ยวข้องกับข้อมูลสำคัญผ่าน Wi-Fi ที่ไม่ทราบถึงความปลอดภัย

วิธีป้องกัน

  • หลีกเลี่ยงการใช้ Wi-Fi สาธารณะ
  • ใช้ VPN (Virtual Private Network) เมื่อจำเป็นต้องใช้ Wi-Fi สาธารณะ
  • ตั้งค่าการแชร์ไฟล์บนคอมพิวเตอร์ของคุณให้เป็นแบบส่วนตัว

5. ไม่อัปเดตระบบปฏิบัติการและซอฟต์แวร์

ผู้พัฒนาซอฟต์แวร์มักออกการอัปเดตเพื่อแก้ไขช่องโหว่ด้านความปลอดภัยที่อาจถูกแฮกเกอร์โจมตี  หากคุณไม่อัปเดตระบบปฏิบัติการและซอฟต์แวร์ คอมพิวเตอร์ของคุณจะเสี่ยงต่อการถูกโจมตีได้

วิธีป้องกัน

  • ติดตั้งระบบปฏิบัติการและซอฟต์แวร์เวอร์ชันล่าสุดอยู่เสมอ
  • เปิดใช้งานการอัปเดตอัตโนมัติ
  • ติดตั้งโปรแกรมป้องกันไวรัสและมัลแวร์บนคอมพิวเตอร์ของคุณ

แล้วจะใช้คอมพิวเตอร์อย่างไรให้ปลอดภัย?

  • ดาวน์โหลดโปรแกรมจากแหล่งที่เชื่อถือได้เท่านั้น เช่น เว็บไซต์ของผู้พัฒนาซอฟต์แวร์ หรือ App Store
  • อย่าคลิกลิงก์หรือเปิดไฟล์แนบจากแหล่งที่ไม่น่าเชื่อถือ หากไม่แน่ใจ ให้ตรวจสอบกับผู้ส่งก่อน
  • ใช้รหัสผ่านที่ยาวและซับซ้อน ควรมีความยาวอย่างน้อย 8 ตัวอักษร ประกอบด้วยตัวอักษรพิมพ์ใหญ่ ตัวอักษรพิมพ์เล็ก ตัวเลข และสัญลักษณ์
  • ติดตั้งโปรแกรมป้องกันไวรัส และอัปเดตฐานข้อมูลไวรัสอยู่เสมอ
  • อัปเดตระบบปฏิบัติการและซอฟต์แวร์อยู่เสมอ
  • เปิดใช้งานการยืนยันตัวตนแบบสองชั้น (2FA) เพื่อเพิ่มชั้นความปลอดภัยให้กับบัญชีของคุณ
  • เข้ารหัสข้อมูลส่วนตัว เช่น ไฟล์เอกสาร รูปภาพ บนคอมพิวเตอร์ของคุณ
  • ใช้ VPN เมื่อเชื่อมต่อกับ Wi-Fi สาธารณะ
  • ระวังการหลอกลวงทางออนไลน์ เช่น การหลอกลวงแบบฟิชชิ่ง การหลอกขายสินค้าออนไลน์

การป้องกันข้อมูลของคุณบนคอมพิวเตอร์นั้นสำคัญมาก  ข้อมูลส่วนตัวของคุณอาจถูกนำไปใช้ในทางที่ผิด เช่น การโจรกรรมข้อมูล การฉ้อโกง หรือการปลอมแปลงตัวตน ทำตามคำแนะนำเหล่านี้ เพื่อปกป้องข้อมูลของคุณบนคอมพิวเตอร์และป้องกันตัวเองจากภัยคุกคามทางออนไลน์ และการตระหนักถึงพฤติกรรมเสี่ยง การป้องกันภัยคุกคามทางไซเบอร์ เป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยปกป้องข้อมูลส่วนตัวของคุณบนคอมพิวเตอร์มีปัญหาไอทีอะไรให้ช่วยไหม “ทักได้นะ”

 

Banner IT Maintenance

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม

บริษัท ดีไอทีซี จำกัด

☎️ 02-555-0999

📲 LINE ID : @ditc หรือคลิก https://lin.ee/gztVQxB