ระบบ e-Tax Invoice & e-Receipt เป็นเทคโนโลยีที่ใช้ในการออกใบกำกับภาษีและใบรับอิเล็กทรอนิกส์ เพื่อช่วยให้กระบวนการบริหารจัดการภาษีและการเงินของธุรกิจเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ เพิ่มความสะดวกสบายในการดูแลและตรวจสอบข้อมูลทางภาษีและการเงิน รวมทั้งยังลดต้นทุนค่าใช้จ่ายและการบริหารจัดการในองค์กร ลดการใช้เอกสารในรูปแบบกระดาษ ที่สำคัญคือเพิ่มความเชื่อมั่นในความปลอดภัยตามมาตรฐานสากล โดยรายละเอียดเกี่ยวกับระบบนี้จะเป็นอย่างไร ตามไปดูพร้อมๆ กันเลยค่ะ
นิยามของคำว่า e-Tax Invoice & e-Receipt
1. e-Tax Invoice (ใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์)
ใบกำกับภาษีตามมาตรา 86/4 แห่งประมวลรัษฎากร รวมถึงใบเพิ่มหนี้ตามมาตรา 86/9 และใบลดหนี้ตามมาตรา 86/10 แห่งประมวลรัษฎากร ซึ่งได้มีการจัดทำข้อความขึ้นเป็นข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ และลงลายมือชื่อดิจิทัล (Digital Signature) หรือได้มีการประทับรับรองเวลา (Time Stamp) ด้วยระบบ e-Tax Invoice by Email
2. e-Receipt (ใบรับอิเล็กทรอนิกส์)
ใบรับหรือใบเสร็จรับเงิน ตามมาตรา 105 ทวิ แห่งประมวลรัษฎากร ที่ได้มีการจัดทำข้อความขึ้นเป็นข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งได้ลงลายมือชื่อดิจิทัล (Digital Signature) ด้วยวิธีการที่กรมสรรพากรกำหนด
e-Tax Invoice คืออะไร?
e-Tax Invoice หรือเรียกกันง่ายๆ ก็คือ ใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์ เป็นระบบจัดการข้อมูลทางด้านภาษีที่กรมสรรพากรได้พัฒนาขึ้น เพื่อตอบโจทย์การทำธุรกิจยุคดิจิทัล ที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ซึ่งรายละเอียดที่อยู่ใน e-Tax Invoice นี้ก็ไม่ได้ต่างกับใบกำกับภาษีแบบกระดาษเลย เพียงแต่ปรับเปลี่ยนข้อมูลมาเป็นรูปแบบเป็นอิเล็กทรอนิกส์ เช่น Microsoft Word, Microsoft Excel, PDF หรือ PDF/A-3 ที่ได้ลงลายมือชื่อดิจิทัล (Digital Signature) ไว้
e-Tax Invoice ถือเป็นทางเลือกใหม่ที่จะมาแทนใบกำกับภาษีแบบกระดาษที่คุ้นเคย ช่วยให้การจัดการงานเอกสารไม่ต้องเป็นเรื่องยุ่งยากและใช้เวลามากอีกต่อไป ทั้งยังประหยัดงบประมาณการจัดเก็บหรือจัดส่งเอกสารอีกด้วย
โดยคุณสามารถส่งข้อมูลใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์ถึงลูกค้าและกรมสรรพากรได้อย่างสะดวก รวดเร็ว ผ่านทางอีเมล เว็บไซต์กรมสรรพากร หรือส่งข้อมูลถึงเซิร์ฟเวอร์ของกรมสรรพากรได้โดยตรง
การจัดทำ e-Tax Invoice สามารถทำได้กี่รูปแบบ?
การจัดทำ e-Tax Invoice มีระบบ 2 รูปแบบ คือ e-Tax Invoice & e-Receipt และ e-Tax Invoice by e-mail โดยความแตกต่างทั้ง 2 ระบบ มีดังนี้
***ผู้ประกอบการสามารถเลือกใช้งานระบบ e-Tax Invoice ได้เพียงระบบใดระบบหนึ่งเท่านั้น
ในบทความนี้เราจะพาไปเจาะเกี่ยวกับระบบ e-Tax Invoice & e-Receipt วิธีการและข้อกำหนดจะเป็นอย่างไร ตามไปดูกันค่ะ
ระบบ e-Tax Invoice & e-Receipt คืออะไร?
ระบบนำส่งข้อมูล ใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์ และใบรับอิเล็กทรอนิกส์ สำหรับผู้ประกอบการ โดยไม่จำกัดรายได้ เป็นระบบบริการที่กรมสรรพากรพัฒนาขึ้นเพื่อให้ผู้ประกอบการจัดทำใบกำกับภาษี ใบเพิ่มหนี้ ใบลดหนี้ และใบเสร็จรับเงินในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ เช่น Microsoft Word, Microsoft Excel, PDF หรือ PDF/A-3 ที่มีการลงลายมือชื่อดิจิทัล (Digital Signature) ส่งให้ผู้เกี่ยวข้อง 2 ส่วนคือ
1. ส่งให้ผู้ซื้อสินค้าหรือผู้รับบริการ
ด้วยวิธีการแลกเปลี่ยนข้อมูลทางอิเล็กทรอนิกส์ตามวิธีที่ตกลงกัน เมื่อผู้ซื้อสินค้าหรือผู้รับบริการ ได้รับใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์หรือใบรับอิเล็กทรอนิกส์แล้ว ต้องตรวจสอบความถูกต้องของเอกสาร และเก็บรักษาข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ตามที่กฎหมายกำหนด
2. ส่งให้กรมสรรพากร โดยจัดทำข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ให้อยู่ในรูปแบบ XML File และเลือกส่งให้กรมสรรพากร 3 ช่องทาง คือ Upload, Service Provider และ Host to Host ภายในวันที่ 15 ของเดือนถัดไป
คุณสมบัติ ผู้ที่มีสิทธิ์จัดทำและนำส่งใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์ และใบรับอิเล็กทรอนิกส์ ระบบ e-Tax Invoice & e-Receipt
1. ผู้ประกอบการจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม ตามมาตรา 77/1(6) แห่งประมวลรัษฎากร หรือมีหน้าที่ออกใบรับ ตามมาตรา 105 ทวิ แห่งประมวลรัษฎากร
2. มี ใบรับรองอิเล็กทรอนิกส์ (Electronic Certificate) สำหรับนิติบุคคล ที่อยู่ภายใต้การรับรองของผู้ให้บริการออก ใบรับรองอิเล็กทรอนิกส์แห่งชาติ (NRCA) และสำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (ETDA)
3. มีระบบการควบคุมภายในที่ดี สามารถพิสูจน์ได้ว่าใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์และใบรับอิเล็กทรอนิกส์ ที่จัดทำและนำส่งให้แก่ผู้รับมีความถูกต้องครบถ้วนโดยใช้วิธีการที่เชื่อถือได้
4. ต้องไม่เป็นผู้ประกอบการที่ได้รับอนุมัติจัดทำใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์ด้วยระบบ e-Tax Invoice by Email